ยกระดับ ERP ด้วย RPA ตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานจัดการและการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจให้เติบโตยุคดิจิทัล

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจมีความเข้มข้น ประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรต้องการ เทคโนโลยีจึงกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้ธุรกิจ โดยเฉพาะระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) ที่สามารถช่วยรวมข้อมูลและกระบวนการการทำงานต่างๆ ขององค์กร เช่น การเงิน การจัดซื้อ การผลิต และทรัพยากรบุคคล เข้าไว้ในระบบเดียวเพื่อให้สามารถจัดการและมองเห็นข้อมูลได้แบบเรียลไทม์

ยกระดับ ERP ด้วย RPA ตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานจัดการและการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจให้เติบโตยุคดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม หากองค์กรมีกระบวนการทำงานที่ต้องทำซ้ำๆ รวมถึงมีปริมาณข้อมูลมหาศาลจากหลากหลายแหล่งที่มาจนต้องใช้ทรัพยากรและระยะเวลานานในการประมวลผล อีกทั้งยังต้องเชื่อมต่อระบบ ERP กับระบบอื่นๆ ภายในองค์กรหรือกับระบบภายนอก การมีตัวช่วยเพิ่มอย่าง Robotic Process Automation (RPA) จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถให้ระบบ ERP มากยิ่งขึ้น


RPA คืออะไร ทำไมสำคัญกับธุรกิจ  

Robotic Process Automation (RPA) คือ เทคโนโลยีที่สร้างซอฟต์แวร์โรบอตหรือหุ่นยนต์อัตโนมัติสำหรับทำงานบนระบบคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติ โดยมีมนุษย์เป็นผู้ออกแบบกระบวนการและขั้นตอนการทำงาน เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถทำงานซ้ำๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การป้อนข้อมูล การประมวลผลเอกสาร หรือการตรวจสอบข้อมูล ทำให้ช่วยลดต้นทุนทั้งในด้านเวลาและเงินให้กับธุรกิจในระยะยาว ไม่เพียงแค่ลดภาระงานที่ต้องทำซ้ำๆ แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้ด้วยเช่นกัน 

4 สัญญาณ รู้ได้อย่างไรว่าธุรกิจต้องใช้ RPA บนระบบ ERP



RPA ช่วยธุรกิจได้อย่างไร 

RPA สามารถนำไปปรับใช้กับกระบวนการทำงานต่างๆ ที่เดิมต้องใช้ทรัพยากรและระยะเวลานาน ให้เป็นไปแบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น 

RPA ช่วยธุรกิจได้อย่างไร
  • ลดการทำงานซ้ำซ้อน  

RPA ช่วยให้กระบวนการทำงานที่ซ้ำๆ สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เช่น กระบวนการทางการเงินและบัญชีที่มีการบันทึกข้อมูลเป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการป้อนข้อมูล การจัดทำรายงาน การอัปเดตข้อมูลในระบบ โดยการใช้ RPA เข้ามาช่วยในการทำงาน จะทำให้สามารถนำทรัพยากรที่มีอยู่ไปจัดการงานอื่นๆ เพิ่มเติมได้ 

  • เพิ่มความแม่นยำในการทำงาน    

เมื่อองค์กรต้องจัดการกับข้อมูลจำนวนมาก เช่น การเก็บสถิติจากหลากหลายแหล่ง หรือการตรวจสอบข้อมูลและเอกสารต่างๆ RPA สามารถเข้ามาใช้ทำตามขั้นตอนของกระบวนการที่ถูกออกแบบไว้ โดยปรับกระบวนการทำงานให้เป็นไปอย่างอัตโนมัติ ซึ่งช่วยทำให้งานไม่ตกหล่นและถูกต้องแม่นยำ สามารถลดข้อผิดพลาดจากการทำงานด้วยมนุษย์ 

  • เชื่อมต่อกับระบบหลายระบบ   

แม้ว่า ERP ส่วนใหญ่สามารถจัดการข้อมูลภายในระบบได้ดี แต่เมื่อองค์กรต้องการเชื่อมต่อ ERP กับระบบ Legacy หรือระบบอื่นๆ ที่ไม่มี API รวมถึงข้อมูลที่ต้องดึงจากแหล่งภายนอก การเชื่อมต่ออาจต้องใช้วิธีการซับซ้อนและใช้ระยะเวลานาน โดยการมี RPA สามารถช่วยให้การเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลทำได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้น เช่น การดึงข้อมูลจาก ERP แล้วป้อนเข้าสู่ระบบ CRM ได้แบบเรียลไทม์  

  • ลดต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายในระยะยาว

การใช้ RPA สามารถช่วยลดต้นทุนในกระบวนการทำงาน ด้วยการทำงานโดยระบบอัตโนมัติที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าแรงงานและเวลา อีกทั้งยังสามารถใช้ช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายและคำนวณความคุ้มค่าในการจัดซื้อสินค้าต่างๆ  เช่น การเปรียบเทียบวัสดุประเภทอื่นตามที่ข้อมูลบริษัทมี เพื่อจัดซื้อวัสดุที่ดีที่สุดในราคาที่ดีที่สุด 

  • เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ  

RPA สามารถใช้ติดตามข้อมูลที่สำคัญๆ ได้แบบเรียลไทม์ เช่น การสรุปยอดขายรายวัน การจัดการระดับสินค้าคงคลัง หรือการติดตามและตรวจสอบสถานะสินค้า ทำให้องค์กรสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์แนวโน้มตลาดและประกอบการตัดสินใจในการหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างทันท่วงที  

Power Automate Desktop และ UiPath สองเครื่องมือ RPA บน ERP ที่น่าสนใจ 

เมื่อพูดถึงเครื่องมือ RPA ที่ใช้ทำงานร่วมกับระบบ ERP เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการทำงานต่างๆ สองเครื่องมือที่ใช้งานในวงกว้างและได้รับความน่าเชื่อถือคือ Power Automate Desktop และ UiPath ซึ่งมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป และเหมาะสมกับธุรกิจที่ไม่เหมือนกัน 

Power Automate Desktop คืออะไร และเหมาะกับธุรกิจแบบไหน

Power Automate Desktop เป็นแพลตฟอร์ม RPA จาก Microsoft ที่ออกแบบมาสำหรับช่วยงานที่ทำซ้ำเป็นประจำ เช่น การประมวลผลเอกสารหรือการดึงข้อมูลจากระบบ ให้ดำเนินไปโดยอัตโนมัติ โดย Power Automate Desktop เหมาะสำหรับองค์กรที่ใช้ Microsoft 365 หรือ ERP Dynamics 365 สามารถใช้ช่วยลดขั้นตอนที่ต้องใช้มนุษย์ และเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างระบบต่างๆ ได้อย่างราบรื่น  

ทำความรู้จัก Power Automate Desktop

Power Automate Desktop เหมาะกับธุรกิจแบบไหน 

  • ธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่Power Automate Desktop รองรับการทำงานตั้งแต่ผู้ใช้งานรายบุคคลไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ 
  • องค์กรที่ใช้ผลิตภัณฑ์ในเครือ Microsoft – เช่น Office 365, ERP Dynamics 365 หรือ Azure ซึ่งสามารถบูรณาการกับ Power Automate Desktop ได้อย่างง่ายดาย 
  • ธุรกิจที่ต้องการลดขั้นตอนในงานเอกสารเช่น การจัดการคำสั่งซื้อ การออกเอกสารภาษี หรือการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างระบบต่างๆ  

ตัวอย่างกรณีการใช้งาน (Use Case) 

  • การแจ้งเตือนและการจัดการอีเมลอัตโนมัติ 

Power Automate Desktop ช่วยส่งการแจ้งเตือนหรืออีเมลได้แบบอัตโนมัติ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขไฟล์หรือข้อมูลที่สำคัญ เช่น การแจ้งเตือนเมื่อมีการอัปเดตไฟล์ใน SharePoint หรือการส่งอีเมลตอบกลับอัตโนมัติ  

  • การเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างแอปพลิเคชัน 

เชื่อมต่อการโยกย้ายหรือแก้ไขข้อมูลระหว่างแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น การย้ายข้อมูลจาก Excel ไปยัง SharePoint หรือการอัปเดตข้อมูลใน ERP Dynamics 365 เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนต่างๆ  

  • การจัดการกระบวนการอนุมัติต่างๆ 

สร้างเวิร์กโฟลว์สำหรับการอนุมัติเอกสารหรือคำขอต่าง ๆ เช่น การอนุมัติคำขอซื้อสินค้า หรือการอนุมัติใบลางาน ช่วยลดเวลาการดำเนินการและเพิ่มความโปร่งใสในกระบวนการ  

  • การจัดการขั้นตอนการบริการลูกค้า 

เพิ่มความรวดเร็วในิการตอบกลับคำถามหรือแก้ไขปัญหาให้ลูกค้า โดยทำให้เป็นกระบวนการแบบอัตโนมัติ เช่น การส่งคำตอบอัตโนมัติสำหรับคำถามที่พบบ่อย หรือการส่งมอบงานไปยังทีมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและลดภาระงานของทีมบริการลูกค้า


UiPath คืออะไร และเหมาะกับธุรกิจแบบไหน 

UiPath เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์ม RPA ที่มีความโดดเด่นในเรื่องการทำงานร่วมกับระบบที่มีความซับซ้อนและการผสมผสาน AI เข้าไปในกระบวนการทำงาน เช่น การทำ OCR (Optical Character Recognition) เพื่ออ่านข้อมูลจากเอกสาร หรือการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มศักยภาพในหลายมิติ เช่น การเงิน การจัดซื้อ และโลจิสติกส์  

ทำความรู้จัก UiPath

หมาะกับธุรกิจแบบไหน

  • ธุรกิจทุกขนาดตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการระบบที่ยืดหยุ่น 
  • ธุรกิจที่ต้องการให้กระบวนการซับซ้อนเป็นแบบอัตโนมัติเช่น การกระทบยอดบัญชี การจัดซื้อจัดจ้าง หรือการประมวลผลข้อมูลจากเอกสารหลายรูปแบบ 
  • ธุรกิจที่ต้องการเชื่อมต่อกับระบบที่หลากหลายเช่น ระบบ ERP ระบบ CRM หรือระบบภายในองค์กรอื่นๆ ผ่าน AI และ Machine Learning  

ตัวอย่างกรณีการใช้งาน (Use Case) 

  • การประมวลผลใบแจ้งหนี้  

UiPath ช่วยให้การดึงข้อมูลจากใบแจ้งหนี้และป้อนเข้าสู่ระบบบัญชีเป็นไปแบบอัตโนมัติ ทำให้ลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความเร็วในการดำเนินงาน  

  • การจัดการอีเมล 

UiPath สามารถจัดการอีเมลขาเข้าด้วยการจัดหมวดหมู่ ดาวน์โหลดไฟล์แนบ และตอบกลับแบบอัตโนมัติ ทำให้การจัดการอีเมลมีประสิทธิภาพมากขึ้น  

  • การอัปเดตข้อมูลลูกค้า  

UiPath ช่วยให้การอัปเดตข้อมูลลูกค้าในระบบ CRM เป็นแบบอัตโนมัติ ทำให้ลดระยะเวลาการดำเนินงาน และอัปเดตข้อมูลได้อย่างครบถ้วนแบบเรียลไทม์ 

  • การจัดการสินค้าคงคลัง 

UiPath ช่วยให้การอัปเดตสต็อกสินค้าเป็นแบบอัตโนมัติ เช่น การแจ้งเตือนเมื่อสินค้าต่ำกว่าระดับที่กำหนด และการสั่งซื้อสินค้าใหม่ ทำให้ลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความรวดเร็วในการจัดการสินค้าคงคลัง  

เพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจด้วย RPA 

RPA ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการดำเนินงานต่างๆ แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและเติบโตในยุคดิจิทัล หากธุรกิจคุณกำลังมองหาโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กร Innoviz Solutions พร้อมให้คำปรึกษาและนำเสนอโซลูชันที่เหมาะสม ติดต่อเราได้ที่: 

  • Tel: 02-6514542