Tag Archive for: Microsoft

Enterprise Resource Planning (ERP)

ปัจจุบัน โลกธุรกิจมีความซับซ้อนมากขึ้น การดำเนินงานต่างๆ ต้องการความรวดเร็วและความแม่นยำเพื่อรักษาและเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน การมีระบบและโซลูชันที่มีประสิทธิภาพในการช่วยจัดการกระบวนการต่างๆ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ระบบบริหารจัดการทรัพยากรในองค์กร (ERP) จึงเข้ามามีบทบาทในการจัดการกับกระบวนการต่างๆ

บทความนี้จึงอยากพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับขีดความสามารถของ ERP ครอบคลุมตั้งแต่นิยามความสำคัญ ตัวอย่างการใช้งาน และแนวทางว่าหากองค์กรอยากเริ่มใช้งาน ERP ควรเริ่มอย่างไร

ERP คืออะไร


Enterprise Resource Planning (ERP) เป็นระบบบริหารจัดการทรัพยากรภายในองค์กร ทำหน้าที่ช่วยจัดการข้อมูล ตั้งแต่รวบรวม จัดเก็บ จัดการ และรวมศูนย์ข้อมูลจากแผนกต่างๆ รวมถึงข้อมูลคลังสินค้า การขนส่ง การขาย การบัญชี การเงิน การผลิต การจัดซื้อ และทรัพยากรบุคคล (HR) เพื่อเชื่อมโยงระบบการทำงานจากทุกหน่วยงานภายในองค์กร ทำให้สามารถนำข้อมูลไปใช้ช่วยให้กระบวนการทำงานต่างๆ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ERP ทำไมสำคัญกับธุรกิจ


  1. เพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการดำเนินงานภายในองค์กร
    • ระบบ ERP สามารถปรับให้กระบวนการทำงานบางส่วนเป็นไปอย่างอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดระยะเวลาของขั้นตอนต่างๆ และลดข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้
  2. เพิ่มการมองเห็นภาพรวมของกระบวนการทำงาน
    • ระบบ ERP ช่วยให้เห็นภาพของกระบวนการทั้งหมดภายในองค์กร ทำให้การติดต่อสื่อสารและการทำงานระหว่างแผนกต่างๆ สะดวกและราบรื่นยิ่งขึ้น
  3. ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลภายในองค์กรได้แบบเรียลไทม์
    • ระบบ ERP ช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์จากทุกที่ ทุกอุปกรณ์ ทำให้การกระบวนการทำงานยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  4. รองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต
    • เมื่อองค์กรขยายตัวขึ้น ระบบ ERP สามารถขยายระบบงานสำหรับส่วนงานต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นมา และปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของธุรกิจได้

ประเภทของ ERP 


  1. Cloud-based ERP software
    • เป็นการติดตั้ง ERP ไว้บน Cloud Server มีข้อดีตรงที่สะดวก สามารถเข้าใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หรือแอปพลิเคชันบนมือถือ
  2. On-premises ERP software
    • เป็นการติดตั้งระบบ ERP ไว้บน Hardware หรือ เครื่องเซิร์ฟเวอร์ขององค์กร เพื่อแชร์ข้อมูลผ่านเซิร์ฟเวอร์นั้น ซึ่งมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง แต่การเชื่อมต่อจากภายนอกองค์กรจะค่อนข้างยุ่งยาก
  3. Hybrid ERP software
    • เป็นการผสมผสานความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลทั้งจากผ่านช่องทางออนไลน์หรือจากอุปกรณ์เฉพาะ

โมดูลหลัก (ระบบงาน) ของ ERP มีอะไรบ้าง


1.ระบบจัดการการเงิน (Financial Management)

ระบบจัดการการเงินเป็นโมดูลพื้นฐานสำหรับทุกระบบ ERP ช่วยบริหารจัดการข้อมูลทางบัญชี รายรับ-รายจ่ายขององค์กร และข้อมูลทางการเงินทั้งหมด เพื่อนำไปใช้  สำหรับทำรายงานทางการเงิน และนำไปวิเคราะห์เป็นข้อมูลเชิงลึกสำหรับประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ

2.ระบบจัดการทรัพยากรบุคคล (Human Resource Management)

ระบบนี้จะช่วยรวบรวมและแสดงข้อมูลต่างๆ ของพนักงานภายในองค์กร เช่น ผลการทำงาน การลางาน และข้อมูลพื้นฐานอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการทำงานของฝ่ายทรัพยากรบุคคลมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และทำให้องค์กรมองเห็นแนวโน้มของจำนวนพนักงานในแผนกต่างๆ และประเมินได้ว่าควรรับบุคลากรเพิ่มเมื่อใด และจำนวนเท่าไร

3.ระบบจัดการซัพพลายเชน (Supply Chain Management)

ระบบจัดการซัพพลายเชนช่วยให้ธุรกิจมองเห็นภาพรวมทั้งหมดของสินค้า ตั้งแต่ปริมาณการผลิตสินค้า จำนวนที่สั่งซื้อจากซัพพลายเออร์ ไปจนถึงฟีดแบ็กจากผู้สั่งซื้อ ทำให้ธุรกิจสามารถประเมินได้ว่าควรผลิตหรือสั่งซื้อสินค้าประเภทใดในช่วงเวลาไหนจึงจะคุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด

4.ระบบจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (Customer Relationship Management)

ระบบจัดการความสัมพันธ์ลูกค้าหรือ CRM จะช่วยวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า สำหรับคาดการณ์ว่าสินค้าและบริการประเภทไหนเหมาะกับลูกค้ากลุ่มใด เพื่อเพิ่มโอกาสการกลับมาซื้อซ้ำหรือนำเสนอสินค้าอื่นๆ เพิ่ม ระบบ CRM ยังช่วยในการติดตามการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการลูกค้าที่มีโอกาสซื้อสินค้า (Lead)

ตัวอย่างการใช้งาน ERP สำหรับองค์กร


  1. ธุรกิจการผลิต
    • ระบบ ERP สามารถช่วยจัดการซัพพลายเชนทั้งหมด ตั้งแต่การจัดซื้อวัตถุดิบ บริหารจัดการทรัพยากร ไปจนถึงการขนส่งสินค้า ทำให้ธุรกิจลดความเสี่ยงกระบวนการล่าช้า และบริหารจัดการสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  2. ธุรกิจค้าปลีก
    • ระบบ ERP สามารถให้ข้อมูลระดับสินค้าคงคลังได้แบบเรียลไทม์และตรวจสอบคลังสินค้าได้จากหลายตำแหน่งที่ตั้งร้าน ทำให้ธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนจำนวนสินค้าแต่ละประเภทให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มให้ไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป
  3. ธุรกิจบริการทางการเงิน
    • ระบบ ERP สามารถช่วยจัดการระบบการเงินให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ครอบคลุมหลายส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบัญชี General Ledger (GL) บัญชี Accounts Payable (AP) และบัญชี Accounts Receivable (AR) รวมถึงการทำรายงานทางการเงิน และการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
  4. ธุรกิจพลังงาน
    • ระบบ ERP สามารถบริหารจัดการสินทรัพย์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์เครื่องจักร ซึ่งช่วยคาดการณ์ช่วงเวลาการซ่อมบำรุง การติดตามและตรวจสอบกระบวนการทำงานต่างๆ ไปจนถึงการจัดทำเอกสารให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม

3 ข้อที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกระบบ ERP


1.เลือกให้เหมาะกับความต้องการของธุรกิจ

ธุรกิจแต่ละแห่งต่างมีความต้องการที่แตกต่างกัน และระบบ ERP มีหลากหลายแบรนด์ จึงควรเลือกให้เหมาะกับความต้องการของตัวธุรกิจมากที่่สุด โดยอาจพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น

  • ระบบการทำงานปัจจุบันเกิดปัญหาที่ตรงไหน และธุรกิจต้องการนำ ERP มาใช้ทำงานฟังก์ชันไหน
  • กระบวนการทำงานอะไรที่ต้องการปรับให้เป็นแบบอัตโนมัติ
  • ส่วนไหนของกระบวนการธุรกิจที่ต้องการเห็นภาพข้อมูลที่ชัดเจนยิ่งขึ้น หรือมีปัญหาในการดึงข้อมูลไปใช้งาน
  • มีระบบอื่นๆ ที่ต้องการนำมาเชื่อมต่อกับ ERP หรือไม่

2.ความคุ้มค่าจากการลงทุน (ROI)

การประเมินความคุ้มค่าจากการลงทุนในระบบ ERP สามารถประเมินเบื้องต้นได้จากหลายแง่มุม เช่น

  • ค่าใช้จ่ายที่ลดลง จากการนำระบบ ERP มาใช้ เช่น ต้นทุนและระยะเวลาที่ลดลงจากการนำกระบวนการอัตโนมัติมาใช้ในการทำงานซ้ำซ้อน หรือค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากการจัดการสินค้าคงคลังหรือโลจิสติกส์ที่ดีขึ้น เป็นต้น
  • ขีดความสามารถของธุรกิจที่เพิ่มขึ้นจากระบบ ERP เช่น กระบวนการทำงานต่างๆ ของธุรกิจที่รวดเร็ว แม่นยำยิ่งขึ้น การให้บริการลูกค้าที่มีประสิทธิภาพขึ้น หรือการทำรายงาน รวบรวมข้อมูลต่างๆ ได้แบบเรียลไทม์
  • เกณฑ์การประเมิน ROI ในระยะยาว เช่น ระบบ ERP ใหม่มีความคุ้มค่ามากแค่ไหนหลังผ่านไปแล้ว 1 ปี หรือ 5 ปี

นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นที่ธุรกิจอาจต้องพิจารณาเพิ่มคือ Total Cost of Ownership (TCO) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดต้นทุนที่เกี่ยวข้องตลอดการใช้งานระบบหรืออุปกรณ์ต่างๆ เช่น

  • ค่าใช้จ่ายในการวางระบบ ซึ่งอาจครอบคลุมตั้งแต่ค่าบริการให้คำปรึกษา สิ่งที่จะส่งมอบ และการปรับแต่งระบบให้เหมาะกับความต้องการของธุรกิจแต่ละราย
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ หรือ Cloud hosting

3.พาร์ทเนอร์ในการวางระบบ ERP

พาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการวางระบบ ERP ให้ประสบความสำคัญ โดยการวางระบบและปรับแต่งระบบ ERP ให้ตรงตามความต้องการของธุรกิจมากที่สุด พาร์ทเนอร์ต้องมีทั้งความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ทั้งในเชิงธุรกิจและเชิงเทคนิค รวมไปถึงการช่วยสนับสนุนในด้านต่างๆ หลังการ Go Live หรือขึ้นระบบให้กับธุรกิจแล้ว

การเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ยุคดิจิทัลไม่ใช่แค่การนำเทคโนโลยีมาใช้ แต่เป็นการวางกลยุทธ์ใหม่ที่สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจอย่างแท้จริง การมีพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญทั้งในด้านธุรกิจและองค์ความรู้เชิงเทคนิค รวมถึงมีประสบการณ์คร่ำหวอดในภาคอุตสาหกรรม จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการทรานส์ฟอร์มองค์กรเพื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ และสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้จริง

Innoviz Solutions มีประสบการณ์ให้บริการในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งประสบความสำเร็จมากกว่า 400 บริษัท ด้วยบริการด้าน ERP และ BPI (Business Process Improvement) ที่พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญและพันธมิตรที่แข็งแกร่ง สามารถช่วยให้ธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) ได้อย่างราบรื่น ก้าวข้ามความท้าทายอันซับซ้อน และสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ๆ หากองค์กรใดสนใจใช้งานระบบ ERP สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ :

Microsoft Copilot Studio

ธุรกิจของคุณพร้อมสำหรับอนาคตแล้วหรือยัง

ในยุคที่ธุรกิจต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือด ผู้บริหารต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งในด้านการบริหารทีม การเพิ่มยอดขาย และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เช่น ผู้บริหารหลายคนต้องใช้เวลาไปกับการตอบคำถามพนักงาน ทำให้ไม่มีเวลาโฟกัสกับกลยุทธ์หลักขององค์กร หรือ ทีมขายอาจใช้เวลาไปกับงานที่ต้องทำซ้ำ แทนที่จะเน้นไปที่การปิดการขาย เป็นต้น เทคโนโลยี AI ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิดในอนาคตอีกต่อไป แต่ได้กลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด และหนึ่งในโซลูชันที่ทรงพลังที่สุดคือ Microsoft Copilot Studio 

Microsoft Copilot Studio คืออะไร 

Copilot Studio คือเครื่องมือจาก Microsoft ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง ปรับแต่ง และควบคุมการทำงานของ AI Copilot ได้อย่างสะดวก โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดในระดับสูง (Low-code/No-code) เหมาะสำหรับธุรกิจหรือองค์กรที่ต้องการปรับแต่ง AI Copilot ให้ตรงตามกระบวนการการทำงานเฉพาะด้านภายในองค์กร เช่น ตอบคำถามลูกค้า เชื่อมต่อกับข้อมูลในระบบขององค์กร และการผสานข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น Microsoft 365, SharePoint, Dataverse หรือ Microsoft Dynamics 365 เป็นต้น 

Microsoft Copilot Studio ช่วยองค์กรของคุณได้อย่างไร 

1.ยกระดับการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปัญหาที่พบบ่อย – ผู้บริหารหลายคนต้องใช้เวลามากมายไปกับการตรวจสอบงาน หรือการสื่อสารภายในองค์กรล่าช้า เช่น พนักงานไม่เข้าใจกระบวนการทำงานที่ถูกต้อง ต้องสอบถามหัวหน้างานที่อาจไม่ว่างหรือติดประชุมอยู่ 

AI Copilot สามารถตอบคำถาม แนะนำแนวทางการทำงาน ช่วยลดภาระงานที่ไม่จำเป็น และเพิ่มเวลาสำหรับงานที่มีมูลค่าสูงกว่า เช่น 

  • สามารถช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานที่ถูกต้องของบริษัทได้ 
  • สามารถตอบคำถามพนักงานเกี่ยวกับนโยบายของบริษัทได้โดยอัตโนมัติ 

2.สร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับลูกค้าของเรา 

ปัญหาที่พบบ่อย – ทีมขายและทีมบริการลูกค้าอาจใช้เวลาไปกับงานตอบคำถามลูกค้าเดิม ๆ หรือในกรณีลูกค้าพบปัญหาเร่งด่วน ที่อาจจะอยู่นอกเวลาทำงานขององค์กร ทีมขายและบริการไม่สามารถตอบสนองได้รวดเร็วพอ 

AI Copilot สามารถช่วยตอบคำถามลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ทีมขายและทีมบริการสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นและทำให้ลูกค้าพึงพอใจได้มากขึ้น เช่น 

  • สามารถตอบคำถามลูกค้าได้ 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด 
  • ตอบคำถามและช่วยเหลือลูกค้าได้ทันที ไม่ต้องรอทีมงาน 
  • ช่วยคัดกรองความสำคัญของงานจากการสอบถามกับลูกค้า ก่อนจะมอบหมายให้พนักงานดำเนินการต่อ ช่วยให้การจัดการงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 
  • การแยกปัญหาที่เข้ามาและส่งไปตามแผนกที่ดูแลได้อย่างถูกต้อง 
  • สามารถนำเสนอรายละเอียดสินค้าหรือบริการที่เหมาะสมกับสิ่งที่ลูกค้ากำลังมองหาอยู่ได้ทันที 

3.เรียกดูข้อมูลจากหลายแหล่งได้อย่างรวดเร็ว 

ปัญหาที่พบบ่อย – องค์กรมักมีข้อมูลจำนวนมหาศาล อาจจะต้องใช้โปรแกรมที่หลากหลายในการเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้น ซึ่งทำให้ผู้บริหารและพนักงานเสียเวลาในการเข้าถึงข้อมูล 

AI Copilot จะช่วยให้ผู้บริหารเรียกดูข้อมูลจากหลายแหล่งได้ทันทีผ่าน Copilot 

  • สามารถเรียกดูข้อมูลของระบบต่าง ๆ ได้ เช่น Microsoft Dynamics 365 Finance and Supply Chain Management ผ่านการสอบถามกับ AI Copilot โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่ระบบ 
  • ช่วยให้พนักงานสามารถเรียกดูข้อมูลและทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น ทำให้ทุกคนในทีมติดตามความคืบหน้าของข้อมูลได้ทันที 
  • ผู้บริหารสามารถเรียกดูข้อมูลด้วยตนเองได้ทุกที่ ทุกเวลา ลดการพึ่งพาพนักงานในการค้นหาข้อมูล 

4.ช่วยให้ทรัพยากรบุคคลสามารถทำงานที่สร้างมูลค่าให้องค์กรได้มากขึ้น

ปัญหาที่พบบ่อย – องค์กรมีงานซ้ำ ๆ ที่สามารถทำด้วยเครื่องมือหรือระบบอัตโนมัติได้ แต่ปัจจุบันเป็นงานของพนักงานทุกคน ทำให้พนักงานต้องเสียเวลาไปกับงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ อาจจะทำให้องค์กรต้องจ้างพนักงานเพิ่มและมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น

ใช้ AI Copilot เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของพนักงาน โดยให้ AI Copilot ทำงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระพนักงานในองค์กร 

  • ในงานที่ปกติแล้วพนักงานต้องมาทำซ้ำ ๆ ในทุกวัน สามารถให้ AI Copilot ช่วยแบ่งเบาภาระได้ เพื่อให้พนักงานนำเวลาไปทำงานที่มีความสำคัญต่อองค์กร 

ทำไมต้องเลือก Microsoft Copilot Studio? 

ทำไมต้องเลือก Microsoft Copilot Studio?
  • ใช้งานง่ายเพราะออกแบบมาให้ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นได้โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิค 
  • ปรับแต่งได้ตามความต้องการของธุรกิจ สามารถตั้งค่า AI ให้เหมาะสมกับองค์กรของคุณ 
  • รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย เช่น Microsoft 365, Microsoft Dynamics 365 Finance and Supply Chain Management และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้อย่างราบรื่น 
  • รองรับการประมวลผลภาษาธรรมชาติที่ล้ำสมัย สามารถเข้าใจและโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างชาญฉลาด 
  • เมื่อพัฒนา Copilot เรียบร้อยแล้ว สามารถนำไปให้บริษัทในเครือใช้งานได้ ไม่จำเป็นต้องพัฒนาใหม่ตั้งแต่ศูนย์ 

ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้ Copilot กับ Microsoft Dynamics 365 Finance and Supply Chain Management

1.ให้ AI Copilot สร้างรายการใบขอซื้อ 

ในธุรกิจ ERP ที่ใช้ Microsoft Dynamics 365 Finance and Supply Chain Management สามารถสั่งให้ AI Copilot ไปสร้างรายการใบขอซื้อ ผ่าน Chatbot ที่ถูกปรับแต่งบน Copilot Studio โดยระบุว่าอยากให้ทำรายการซื้อสินค้าชนิดใด จากใคร จำนวนเท่าไหร่

  • เช่น “สร้างรายการใบขอซื้อ Notebook ให้พนักงานใหม่ รุ่น AAA จากบริษัท XXX 1 เครื่อง” เป็นต้น ในกรณีที่ลูกค้าลืมระบุข้อมูลที่จำเป็นบางรายการ ทาง AI Copilot สามารถถามกลับไปยังลูกค้า เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนก่อนไปสร้างรายการในระบบ 

2.ให้ AI Copilot ช่วยทำกระบวนการทางธุรกิจแทนผู้ใช้ 

ในบางธุรกิจ การขายสินค้าจะมีกระบวนการทางธุรกิจก่อนออกใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าอยู่ 3 ขั้นตอน คือ

  1. การเปิดใบสั่งขาย (Sales order)
  2. การหยิบสินค้าจากในคลัง (Pick)
  3. การห่อสินค้า (Pack)

ถ้าทั้ง 3 ขั้นตอนคือคนทำคนเดียวกัน ผู้ใช้รายนั้นต้องทำทั้ง 3 ขั้นตอนด้วยตนเอง ซึ่งการทำทั้ง 3 ขั้นตอน จะอยู่ในหน้าจอที่แตกต่างกัน หากมีการใช้งาน AI Copilot ที่ถูกปรับแต่งแล้ว ผู้ใช้สามารถส่งคำสั่งให้ AI Copilot ทำทั้ง 3 ขั้นตอนนี้ผ่าน Chatbot ได้ในหน้าจอเดียว โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องไปทำรายการเอง และหากในบางธุรกิจ บางองค์กร ต้องการเพิ่มขั้นตอนที่ 4 ให้ AI Copilot ออกใบแจ้งหนี้ให้ด้วย ก็สามารถทำได้เช่นกัน 

3.การสอบถามข้อมูลผ่าน AI Copilot ที่เป็นข้อมูลที่อยู่นอกระบบ 

โดยปกติ ผู้ใช้สามารถใช้ AI Copilot เพื่อขอคำแนะนำในการใช้งานระบบ Microsoft Dynamics 365 Finance and Supply Chain Management ได้ ผ่านการสอบถามกับ Chatbot แต่หากผู้ใช้ต้องการเพิ่มความสามารถของ AI Copilot ให้รองรับการสอบถามข้อมูลที่อยู่นอกระบบ ผู้ใช้สามารถขยายความสามารถของ AI Copilot ด้วยตัวเองได้ ผ่านการผสานข้อมูลภายนอกเข้าไปใน Copilot Studio เพื่อให้ AI Copilot สามารถนำมาเป็นแหล่งข้อมูลในการตอบผู้ใช้

  • เช่น สามารถสอบถามข้อมูลที่อยู่ใน Public website หรือ SharePoint ที่องค์กรกำหนด เป็นต้น 

4.ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ Copilot บนระบบ Microsoft Dynamics 365 Finance and Supply Chain Management:

ถึงเวลายกระดับธุรกิจของคุณแล้ว! 

หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วย AI Copilot ส่วนตัวอัจฉริยะที่สามารถปรับใช้ได้อย่างยืดหยุ่น และมีความเชี่ยวชาญในการทำงาน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับระบบ Microsoft Dynamics 365 Finance and Supply Chain Management เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน การประสานพลังของ Microsoft Copilot Studio คือคำตอบของคุณ 

📞 ติดต่อเราเพื่อขอคำปรึกษากับทีมผู้เชี่ยวชาญ 

เวลาทำการ: Mon-Fri 9:00-18:00 

Email: SalesTeam@innovizsolutions.com 

Website: Innoviz Solutions 

Telephone: (662) 6514542 

Power BI Embedded

Power BI Embedded 

ตัวช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ERP ใน Microsoft Dynamics 365

ในยุคที่ธุรกิจต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและการแข่งขันที่สูงขึ้น ขีดความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลและการบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ อย่างเต็มประสิทธิภาพจึงเป็นเครื่องสำคัญ เพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและเติบโตได้ในระยะยาว 

ดังนั้น การมีเครื่องมือช่วยยกระดับศักยภาพองค์กรจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดย Microsoft Dynamics 365 for Finance and Operations คือหนึ่งในระบบ ERP ที่ช่วยให้การจัดการบริหารทรัพยากรต่าง ๆ ในองค์กร เป็นไปอย่างมีระบบ สามารถเชื่อมโยงทุกส่วนเข้าหากันได้ทั้งหมด เช่น งานบริการ งานการผลิต งบประมาณ และอื่นๆเหมาะกับองค์กรที่มีขนาดกลาง ไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งภายใต้ Microsoft Dynamics 365 หนึ่งในตัวช่วยที่น่าสนใจสำหรับใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในระบบ ERP คือ Power BI Embedded

Power BI

ตัวอย่าง Power BI ใน Workspace ของ D365

Power BI Embedded คืออะไร

Power BI Embedded ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างรายงานข้อมูลออกมาในรูปแบบ Analytic Dashboard และวิเคราะห์ข้อมูล ผ่านแอปพลิเคชัน พอร์ทัล หรือเว็บไซต์ต่างๆ ขององค์กรได้เอง ทำให้สามารถปรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบตามความเหมาะสม เช่น ปรับใช้สำหรับระบบ Business Intelligence ภายในองค์กร เพื่อแปลงข้อมูลปกติให้เป็นข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ หรือใช้สำหรับให้บริการลูกค้าขององค์กรที่ต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มจากฐานข้อมูลที่มีอยู่

ทำไมองค์กรถึงควรใช้ Power BI Embedded

ทำไมองค์กรถึงควรใช้ Power BI Embedded

เพียงแค่ใช้งาน D365 Finance and Operations องค์กรธุรกิจสามารถใช้งาน Power BI Embedded ได้เลย โดยไม่ต้องจ่ายค่าบริการ Power BI เพิ่มเติม นอกจากนี้ การเข้าถึงรายงาน Power BI ยังมีความปลอดภัย เนื่องจากเข้าผ่านทาง D365 Finance and Operations

Power BI ทำให้การแสดงชุดข้อมูลที่ซับซ้อนเป็นเรื่องง่ายโดยการแสดงข้อมูลออกมาเป็นรูปภาพ เพื่อช่วยให้สามารถเข้าใจข้อมูลได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถ Drill-down เพื่อดูรายละเอียดของกระบวนการต่างๆ และจัดการงานในส่วนดังกล่าวได้ในทันที

สามารถรวมข้อมูลจากหลายๆ เรื่องเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการแสดงผลด้วยกันได้ง่าย

ช่วยให้สามารถเห็นข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและสามารถปรับเปลี่ยนทิศทางได้แบบเรียลไทม์

สามารถสร้างแดชบอร์ดที่แสดงข้อมูลสรุปตามความเหมาะได้เอง เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ โดยสามารถปรับแต่งรายงานด้วย Power user หรือ Business Analyst ได้ ทำให้รายงานมาจากประสบการณ์จริงของผู้ใช้งานจริง

ด้วยการรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ จึงทำให้ Power BI เป็นเทคโนโลยีที่คุ้มค่าซึ่งอาจช่วยประหยัดเวลาและเงินขององค์กร

Features of Power BI Embedded

ฟีเจอร์เด่นของ Power BI Embedded

Power BI Embedded มีฟีเจอร์ที่สามารถใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ในหลายส่วน เราจึงอยากชวนมาทำความรู้จัก 5 ฟีเจอร์เด่นๆ แบบเจาะลึก ที่จะช่วยให้งานรูทีนและการบริหารจัดการต่างๆ ง่ายขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น

แสดงภาพรวมของกระแสเงินสดในองค์กร โดยจะช่วยให้คาดการณ์เพื่อใช้ในการตัดสินใจได้ดีขึ้นว่ากระแสเงินสดขององค์กรเป็นอย่างไร ซึ่งสามารถวิเคราะห์ในมุมของสกุลเงินแต่ละประเภทและยังสามารถดูไปถึงบัญชีธนาคารได้ด้วย ทำให้มองเห็นภาพของส่วนที่เพิ่มและการขาดดุลของกระแสเงินสดได้ดียิ่งขึ้น

Features of Power BI Embedded

แสดงข้อมูลการจัดการเครดิตและการเรียกเก็บเงิน โดยข้อมูลจะเกี่ยวกับจำนวนยอดขายคงค้าง, ยอดคงเหลือที่ค้างชำระ ข้อมูลลูกค้าที่เกินวงเงินเครดิต เป็นต้น ซึ่งสามารถแสดงในมุมของบริษัท กลุ่มของลูกค้า และลูกค้ารายบุคคล ได้อีกด้วย

Features of Power BI Embedded

แสดงถึงประสิทธิภาพของการผลิตในองค์กร โดยสามารถวิเคราะห์ในส่วนของการผลิตตามกำหนดเวลา คุณภาพการผลิตและรวมไปถึงต้นทุนของการผลิต ซึ่งจะดูรายละเอียดของใบสั่งผลิตที่เกิดขึ้นได้ ทำให้องค์กรสามารถผลิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด และยังสามารถดูข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผลต่างระหว่างต้นทุนโดยประมาณกับต้นทุนที่รับรู้ได้ทันที

Features of Power BI Embedded

แสดงข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์ถาวรที่สามารถดูรายละเอียดและข้อมูลที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ถาวรในองค์กร ซึ่งจะแสดงสินทรัพย์ที่ได้รับมาระหว่างปีปัจจุบัน และสินทรัพย์ที่ถูกจำหน่ายออกไปในระหว่างปีปัจจุบัน รวมถึงแสดงค่าเสื่อมของสินทรัพย์ถาวรนั้นๆ อีกด้วย

Features of Power BI Embedded

แสดงภาพรวมของการเงิน และอัตราส่วนทางการเงินต่างๆ เพื่อเข้าถึงการวิเคราะห์ทางการเงินที่ทันสมัย โดยการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมและแสดงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเงินขององค์กร ด้วยการรวมข้อมูลจากบัญชีแยกประเภททั่วไปและบัญชีแยกประเภทย่อย ตามความต้องการเฉพาะของคุณได้

Features of Power BI Embedded

เริ่มใช้งาน Power BI Embedded

สรุปแล้ว การใช้ Power BI Embedded ที่มาพร้อมกับ Dynamics 365 Finance and Operations ช่วยเพิ่มความเฉียบคมในการตัดสินใจ ทำให้สามารถใช้ข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในระบบ ERP นำมาใช้วิเคราะห์ธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถปรับปรุงกระบวนการธุรกิจและการบริหารทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในอนาคตได้อีกด้วย หากองค์กรใดสนใจใช้งาน Power BI Embedded สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ : (Email : SalesTeam@innovizsolutions.com ,Tel : 02-6514542) หรือ https://www.innovizsolutions.com/contact/

อ้างอิง:

https://learn.microsoft.com/en-us/dynamics365/fin-ops-core/dev-itpro/analytics/embed-power-bi-workspaces?context=%2Fdynamics365%2Fcontext%2Fcommerce
Microsoft Thailand awarded Partner of the Year 2021
Microsoft Thailand awarded Partner of the Year 2021

Microsoft Thailand awarded Partner of the Year 2021 to Innoviz Solutions in the category of Intelligent Line Of Business – Business Applications. This is the proof of our excellence and hard work for the past year. We would like to thank all of our customers who trusted us and worked with us. We believed that this will lead to many more success to come in the future.